การนำทฤษฎีการสื่อสารมาใช้ในการนิเทศการศึกษา


การนำทฤษฎีการสื่อสารมาใช้ในการนิเทศการศึกษา

        การนำทฤษฎีการสื่อสารมาใช้ในการนิเทศการศึกษานั้นเป็นเรื่องที่มีความจำเป็นมาก เนื่องจากการนิเทศการศึกษานั้นจำเป็นต้องทำการความเข้าใจที่ชัดเจนถูกต้อง ร่วมกันระหว่างผู้นิเทศ ผู้รับการนิเทศ และผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่ง วัชรา เล่าเรียนดี (2554 : 84) สรุปถึงวิธีการสื่อสารในการนิเทศไว้ ดังนี้
        1. ทางวาจา ต้องใช้คำพูดที่สื่อความหมายได้ชัดเจน
        2. ทางการเขียน ควรเขียนด้วยภาษาเขียนที่ถูกต้อง อ่านแล้วเข้าใจง่าย
        3. ภาษาท่าทาง เช่น การแสดงออกด้วยสีหน้า แววตา ท่าทาง อากัปกิริยาต่างๆ
        4. ทางวาจา ทางการเขียน และการใช้ท่าทาง การสื่อสารที่ใช้ผสมผสานกันในการสื่อความหมายช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น
        5. ทางวาจา อุปกรณ์ สัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อสื่อความหมาย อาจสร้างความเข้าใจได้ไม่ตรงกัน แต่ถ้ามีการใช้วาจาประกอบการแสดง การอธิบาย จะช่วยให้เกิดความเข้าใจยิ่งขึ้น

        นอกจากนี้ ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์ (2558 : 171) ได้กล่าวถึงการนำความรู้การติดต่อสื่อสารไปใช้ในการนิเทศ ดังต่อไปนี้
        1. การติดต่อสื่อสารระหว่างผู้นิเทศกับผู้รับการนิเทศ จะเกิดความผิดพลาดถ้าทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการรับรู้ในทัศนะเดียวกัน
        2. การใช้ภาษาที่เป็นการติดต่อสองทาง จะมีผลกว่าการใช้ภาษาเขียนในทางเดียว
        3. การติดต่อสื่อสารควรคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้รับและผู้ส่งด้วย ซึ่งจะทำให้การส่งสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
        4. การเลือกใช้ภาษาที่ถูกต้องชัดเจน จะทำให้มีความเข้าใจมากขึ้นและการติดต่อสื่อสารมีประสิทธิภาพมากขึ้น
        5. การติดต่อสื่อสารควรคำนึงถึงการใช้สื่อต่างๆ ในการติดต่อ
        6. การติดต่อสื่อสาร จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในด้านพฤติกรรมของกลุ่มและเจตคติของกลุ่มถ้ามีการอภิปรายก่อนตัดสินใจ

        เพื่อให้การสื่อสารการนิเทศการศึกษามีประสิทธิภาพ ผู้เขียนเสนอทัศนะเพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการนิเทศไว้ ดังนี้
        1. ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศ ต้องเข้าใจจุดมุ่งหมายหรือความต้องการของตนเองในการสื่อสารก่อน ว่าต้องการให้ผู้รับสารได้รับทราบเกี่ยวกับเรื่องใดและควรมีการอธิบายข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจชัดเจนมากยิ่งขึ้น
        2. ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศควรพิจารณาถึงช่องทางหรือวิธีการในการสื่อสารว่าควรใช้วิธีการใดจึงเหมาะสมและเกิดอุปสรรคน้อยที่สุด โดยช่องทางที่ใช้ในการสื่อสารแต่ละครั้งอาจใช้ได้หลายช่องทางร่วมกัน เช่น ใช้ทั้งวาจา หรือใช้การเขียนที่เป็นลายลักษณ์อักษรร่วมกันในเป้าหมายเดียวกัน เป็นต้น
        3. ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับ ระดับความสามารถของผู้รับสาร ช่องว่างระหว่างวัย ระดับการศึกษา ลักษณะและขนาดโครงสร้างของสถานศึกษาแต่ละแห่ง วัฒนธรรมองค์กร ฯลฯ เพื่อจะได้เตรียมตัวและเตรียมข้อมูล เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้กับผู้รับสารเกิดความเข้าใจสารได้ง่ายขึ้น เช่น หากผู้รับสารมีระดับความสามารถในการรับรู้สารในลักษณะที่เป็นรูปธรรมมากกว่านามธรรม ผู้ส่งสารอาจเตรียมเขียนแผนภาพประกอบลำดับขั้นของการสอนที่ชัดเจนและทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เป็นต้น
        4. ผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศควรจดบันทึกรายการที่เป็นอุปสรรคปัญหาในการสื่อสารการนิเทศการศึกษา เพื่อที่จะได้หาวิธีการปรับปรุงแก้ไขในครั้งต่อไปและไม่ทำให้เกิดอุปสรรคในการสื่อสารซ้ำแบบเดิมๆ แก่ผู้รับสารอีก

        จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น แสดงให้เห็นว่าทักษะการสื่อสารเป็นทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งประการหนึ่ง ที่ช่วยส่งเสริมให้การนิเทศการศึกษาประสบความสำเร็จ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อุปสรรคของการสื่อสาร

องค์ประกอบของกระบวนการติดต่อสื่อสาร

แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการสื่อสาร